" ผู้หญิงยุคใหม่ ต้องใส่ใจตัวเอง "
ปฏิเสธไม่ได้ว่าผู้หญิงทุกวันนี้มีบทบาทความรับผิดชอบมากขึ้น ผู้หญิงเก่งจำนวนมากต้องดูแลลูกดูแลครอบครัว พร้อมกับทำงานประจำ นอกจากนี้เพื่อความมั่นใจในตัวเองทำให้ผู้หญิงต้องดูแลภาพลักษณ์ให้สวยงามน่ามองอยู่เสมอ การที่ผู้หญิงต้องรับหน้าที่หนักอยู่ตลอดเวลาย่อมอาจทำให้ขาดการดูแลตัวเองไปบ้าง
ยิ่งไปกว่านั้น โรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมองที่ดูเหมือนจะเป็นเฉพาะ “โรคของผู้ชาย” นั้น ไม่เป็นจริงเสมอไปข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่าโรคหัวใจขาดเลือด (Ischemic heart disease)เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับหนึ่ง ส่วนโรคหลอดเลือดสมอง (Stroke) เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับสองของผู้หญิงทั่วโลก ถึงแม้ผู้หญิงจะต้องเผชิญกับโรคที่รออยู่มากมายแต่สิ่งที่ยืนยันความแกร่งของผู้หญิง คือเรามีอายุเฉลี่ยที่ยืนยาวกว่าผู้ชายถึง 6-8 ปี การดูแลสุขภาพผู้หญิงโดยทั่วไปแล้วไม่ต่างจากการหลักการดูแลสุขภาพทั่วไปคือ กินอาหารให้ได้สารอาหารครบถ้วน กินผักผลไม้มากๆ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และผ่อนคลายความเครียด แต่เมื่อมีความแตกต่างของโครงสร้างร่างกาย
เป็นวัยที่ผู้หญิงสวยสะพรั่งและมีความรักสวยรักงามมีการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนทำให้มีการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายหลายอย่าง เข้าสู่วัยสาวเริ่มมีประจำเดือนและเป็นสิว แต่ส่วนใหญ่แล้วยังไม่มีปัญหาสุขภาพมากนัก การดูแลสุขภาพในวัยนี้เป็นการปูพื้นฐานที่ดีให้กับร่างกายเมื่ออายุมากขึ้น ความต้องการสารอาหารของวัยรุ่นจะเพิ่มขึ้นมากกว่าตอนเป็นเด็กและใกล้เคียงกับในผู้ใหญ่
และที่ควรระวังคือเป็นวัยที่ได้เลือกซื้อเลือกกินอาหารเองมากขึ้น จึงควรให้ความสำคัญกับการเลือกกิน อาหารที่มีคุณค่า โดยเฉพาะอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น เนื้อแดง ผักโขมเพราะร่างกายต้องการธาตุเหล็กมากขึ้นจากการมีประจำเดือน และควรกินอาหารที่มีแคลเซียมสูง เพราะเป็นช่วงที่มีการสะสมแคลเซียมในกระดูกสูงสุดเพื่อเตรียมพร้อมกับการสูญเสียมวลกระดูกเมื่ออายุมากขึ้น ซึ่งผู้หญิงในวัยนี้มักดื่มนมลดลงจึงอาจทำให้ได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ
วัยทำงาน ช่วงอายุ 23-45 ปีผู้หญิงวัยทำงาน
เป็นช่วงอายุที่ผู้หญิงหลายคนเริ่มมีครอบครัวหรือเริ่มทำงาน มีความเหน็ดเหนื่อย ในชีวิตประจำวันเพิ่มมากขึ้น มีความเครียดสะสม และมีโอกาสเป็นโรคซึมเศร้าได้สูงกว่าผู้ชายการดูแลสุขภาพจึงควรเน้นที่การดูแลจิตใจควบคู่ไปด้วย ส่วนสุขภาพกายก็เริ่มเสื่อมถอยลงบ้าง จึงควรพบแพทย์เพื่อรับการตรวจสุขภาพประจำปี เน้นการกินอาหารให้สมดุลและออกกำลังกายเพื่อควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไปเนื่องจากระบบเผาผลาญเริ่มลดลงและเป็นวัยที่ต้องกินและดื่มเพื่อเข้าสังคมอยู่ตลอดเวลาบางคนอาจตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ซึ่งก็ร่างกายก็จะต้องการสารอาหารมากขึ้น นอกจากนี้ ความสดใสของผิวพรรณอาจเริ่มลดลงตามวัยและความเครียดที่เพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นชื่อว่าผู้หญิงไม่ว่าอายุเท่าไรก็คงไม่ยอมแพ้ใครเรื่องความสวย จึงต้องเพิ่มการกินผักผลไม้เพื่อให้ได้สารต้านอนุมูลอิสระ หรืออาจเลือกเสริมผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เหมาะสม เช่น สารสกัดเมล็ดองุ่น วิตามินซี หรือ วิตามินอี ที่มีคุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระสูง ทำให้ผู้หญิงวัยนี้เป็นผู้หญิงเก่ง
สัญญาณเริ่มต้นของความเสื่อมถอยด้านความงามเห็นได้ชัดคงเป็นรอยคล้ำใต้ตา ผิวที่ดูซูบซีด ริ้วรอยเพิ่มขึ้น ผมและเล็บไม่แข็งแรงเงางามส่วนด้านสุขภาพจะเห็นจากความอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น เหนื่อยง่ายไม่กระฉับกระเฉง ปวดเมื่อยเนื้อตัว อีกทั้งยังส่งผลถึงด้านจิตใจที่สังเกตได้ คือความเครียดวิตกกังวลหรือนอนไม่หลับ เป็นต้น ซึ่งอาการเหล่านี้สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากโภชนาการที่ไม่สมดุล จึงสามารถเสริมให้ครบสมบูรณ์ได้ด้วยอาหารที่มีคุณภาพ
ที่มา....................Nutrilite
" เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงคิดบวก"
สุขภาพของคุณผู้หญิงนั้นเป็นเรื่องละเอียดอ่อนเสียจริงๆ แต่เคยสังเกตบ้างไหมค่ะว่า ผู้หญิงคิดบวกนั้นมักจะมีสุขภาพที่ดีกว่าคนอื่นๆ เป็นเพราะอะไร ไปหาเหตุผลกันค่ะ
6 เหตุผลที่ทำให้ผู้หญิงคิดบวก
เคยสังเกตกันไหมเอ่ย ว่าผู้หญิงที่ร่าเริง ยิ้มง่ายและดูมีความสุขแทบจะทุกคน มักจะมีสุขภาพที่แข็งแรง และร่างกายแจ่มใส ซึ่งการมีความสุขจะเกี่ยวข้องกับเรื่องสุขภาพได้อย่างไร วันนี้เรามีคำตอบมาเฉลยให้ได้รู้กันค่ะ
1. คิดบวกขจัดความเครียด
ปัญหาและอุปสรรคมีอิสระ มันสามารถเข้าถึงคนได้ทุกคนทุกชนชั้น แต่คนที่มีความสุขจะมีโอกาสผ่านมรสุมต่าง ๆ ไปได้อย่างเจ็บน้อยที่สุด เพราะเขาเหล่านี้มักจะคิดบวก และไม่ยอมเสียเวลาจมปลักกับปัญหานานจนเกินไป ซึ่งพอไม่เครียด จิตใจก็จะผ่องใส และร่างกายก็จะแข็งแรงตามไปด้วย ดังนั้นมาเปลี่ยนตัวเองเป็นผู้หญิงคิดบวกกันดีกว่านะคะ
2. ไม่ปล่อยตัวเองให้ว่างจนฟุ้งซ่าน
กิจกรรมฆ่าเวลาประเภทนอนดูทีวีอยู่บ้าน หรือจมตัวเองอยู่กับที่นอนทั้งวันไม่ใช่แนวของคนที่มีความสุข เพราะคนที่มีความสุขจะมีกำลังใจไปทำสิ่งต่าง ๆ มากมาย เรียกได้ว่าแทบไม่มีเวลาว่างมานั่งคิดฟุ้งซ่านให้วุ่นวายใจ ซึ่งการได้ออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้ร่างกายแอคทีฟ เป็นผลให้มีสุขภาพที่ดี แถมยังได้เบิร์นไขมันส่วนเกินอีกด้วยนะ
3. ไม่ต้องกลุ้มกับค่ารักษาพยาบาล
เจ็บป่วยแต่ละทีก็มีเรื่องให้กลุ้มไม่น้อย ไหนจะค่ารักษา ค่ายา และอาการเจ็บป่วยที่เป็นอยู่อีก ฉะนั้นคนที่มีสุขภาพจิต รวมไปถึงสุขภาพกายที่ดีก็ไม่จำเป็นต้องเครียดกับเรื่องเหล่านี้ให้เมื่อยตุ้ม แถมมีเงินเหลือไว้กินและเที่ยวเพื่อสุขภาพจิตได้อีกเยอะ ส่งผลให้ระดับความสุขในร่างกายเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ
4. ไม่ป่วยบ่อย
สภาวะเจ็บออด ๆ แอด ๆ เป็นสิ่งที่คนมีความสุขไม่ค่อยจะได้เจอ เพราะมักจะมีจิตใจแจ่มใส ไม่หม่นหมอง จนพาลให้ร่างกายอ่อนแอ เปิดโอกาสให้ปัญหาสุขภาพเข้ามาคุกคามได้ง่าย ๆ ฉะนั้นพยายามทำจิตใจให้ร่าเริงเข้าไว้นะคะ ร่างกายจะได้แข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย ๆ ให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น
5. มีความพยายามสร้างสุขภาพดีให้ตัวเอง
หากเรามีความสุขกับทุกสิ่งในชีวิต ทั้งด้านจิตใจและร่างกาย เราก็คงอยากมีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างนี้ตลอดไป ดังนั้นคนที่มีความสุขในชีวิต ก็จะพยายามดูแลตัวเองรวมไปถึงคนรอบข้างให้มีสุขภาพที่แข็งแรงไม่ว่าจะเป็นชวนกันไปออกกำลังกาย หรือทานอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ซึ่งพอมีร่างกายที่แข็งแรง ก็จะส่งผลให้สุขภาพจิตแข็งแรงสดใสตามไปด้วยนั่นเอง
6. สร้างความสุขให้ตัวเองอย่างถาวร
ยิ่งมีความสุขกับดูแลตัวเองแล้วได้ผลลัพธ์ที่ดีเท่าไร ก็จะยิ่งมีแรงบันดาลใจให้ทำต่อไปอีกเรื่อย ๆ จึงไม่แปลกที่คนที่รู้สึกดีกับการมีร่างกายแข็งแรง จะผันตัวเองเป็นคนรักสุขภาพ อย่างหันมารับประทานผักและผลไม้มากขึ้น กินเนื้อสัตว์น้อยลง หรือออกกำลังกายอยู่เสมอ ซึ่งนอกจากจะมีสุขภาพจิตดี เพราะได้ทำในสิ่งที่ตัวเองอยากทำแล้ว ก็จะมีร่างกายที่แข็งแรงเป็นของแถมด้วย
เกิดเป็นผู้หญิงต้องรู้จักการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองกันนะคะ เพราะผู้หญิงสมัยใหม่นั้น ต้องเป็นผู้หญิงที่ สวย เก่ง และเกร่ง ซึ่งจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกได่ว่าผู้หญิงไม่ใช่เพศที่อ่อนแอแต่ผู้หญิงนั้นก็สามารถยืนยัดด้วยตัวเอง และดูแลตัวเองเป็นอย่างดีได้
ขอบคุณ เคล็ดลับผู้หญิง http://women.thaiza.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น